วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ความแตกต่างระหว่างมืออาชีพกับมือสมัครเล่น

ได้อ่าน บทความนี้ แล้วรู้สึกน่าสนใจจริงๆ ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคน เลยแปลมาให้ทุกคนได้อ่านกัน



ทุกวันเวลา 8 โมง
ฤดูร้อนที่แล้ว ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ Todd Henry ,Todd เป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จและสร้างผลงานที่มีคุณค่าได้อย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ผม สร้างผลงานที่น่ากังขาและยังไม่สม่ำเสมอ และผมก็ได้อธิบายกับ Todd
"Todd คุณคิดยังไงกับการเขียนเฉพาะเวลาตอนที่คุณมีอารมณ์อยากจะเขียน? ผมรู้สึกว่าผมจะทำได้ดีที่สุด ก็ต่อเมื่อมีอารมณ์สร้างสรรค์ หรือตอนมีแรงบันดาลใจ ซึ่งนานๆจะมีซักที ผมเขียนเฉพาะตอนที่อยากทำเท่านั้น ซึ่งก็แปลว่าผมทำได้ไม่สม่ำเสมอ แต่ถ้าผมเขียนตลอดเวลา มันก็ทำให้ผมเขียนออกมาไม่ดี"
Todd ตอบว่า "เยี่ยมไปเลย ผมก็เขียนเฉพาะเวลาผมมีอารมณ์ มีแรงบันดาลใจเหมือนกันแต่ผมบังเอิญมีอารมณ์และแรงบันดาลใจทุกวันตอน 8 โมง"

ความแตกต่างระหว่างมืออาชีพกับมือสมัครเล่น
มันไม่สำคัญว่าคุณอยากจะทำอะไรให้ดีขึ้น  ถ้าคุณจะทำงานเมื่อคุณมีแรงบันดาลใจเท่านั้น คุณก็จะไม่มีทางเป็นคนที่มั่นคงพอที่จะเป็นมืออาชีพ ความสามารถที่จะไปที่ทำงานทุกวัน ทำงานตามตารางเวลาและมุ่งทำงาน - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอยากจะทำ นั้นมีคุณค่ามากเพราะมั้นคือสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในการทำงานให้ดีขึ้น
ผมเคยเห็นจากประสบการณ์ของผมเอง ...
เมื่อตอนที่ผมไม่พลาดการออกกำลังกาย ผมมีรูปร่างที่ดีที่สุดในชีวิตของผม เมื่อผมเขียนทุกสัปดาห์ ก็ทำให้ผมเป็นนักเขียนที่ดีขึ้น เมื่อผมเดินทางและใช้กล้องของผมทุกวันผมก็จะถ่ายภาพดีขึ้น
มันเป็นเรื่องจริงที่ทุกคนรู้ แต่ทำไมมันจึงทำได้ยากเย็นนัก?

ความเจ็บปวดของการเป็นมืออาชีพ 
การเดินทางสู่จุดหมายของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอะไร รวมทั้งการมีทัศนคติของมืออาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย ในความเป็นจริงการเป็นมืออาชีพเป็นความเจ็บปวด เรื่องของเรื่องก็คือ เวลาส่วนใหญ่ของเรามีความไม่สม่ำเสมอ เรามีเป้าหมายที่เราต้องการที่จะประสบความสำเร็จและความฝันที่เราต้องการที่จะเติมเต็ม แต่เราเดินไปสู่เป้าหมายนั้นแค่นานๆครั้งเท่านั้น เราทำเมื่อเรารู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นหรือเมื่อชีวิตให้โอกาสให้เราทำ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับเรา

ผมรับประกันว่าถ้าคุณตั้งตารางเวลาสำหรับงานใด ๆ และเริ่มทำตาม มันจะมีวันที่คุณรู้สึกว่าอยากเลิก เมื่อคุณเริ่มต้นธุรกิจจะมีวันที่คุณรู้สึกไม่อยากเจอหน้าใคร เมื่อคุณอยู่ที่ฟิตเนส จะมีเวลาที่คุณไม่อยากเล่นจนจบ หรือเมื่อถึงเวลาที่จะเขียน ก็จะมีอาการที่คุณไม่อยากจะแตะคีย์บอร์ด แต่การก้าวข้ามความรำคาญหรือเจ็บปวดในการทำสิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณเป็นมืออาชีพ

มืออาชีพทำตามตารางเวลา, มือสมัครเล่นใช้ชีวิตไปตามยถากรรม มืออาชีพรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับเขาและทำมันอย่างมีจุดหมาย มือสมัครเล่นถูกกำหนดชะตาด้วยความเร่งด่วนของชีวิต

คุณจะไม่มีวันเสียใจในการเริ่มต้นทำงานที่สำคัญ
บางคนอาจจะคิดว่าผมชี้ให้เห็นประโยชน์ของการเป็นคนบ้างาน "มืออาชีพทำงานหนักกว่าคนอื่นและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอดเยี่ยม" จริงๆแล้วไม่ใช่เลย
การเป็นมืออาชีพเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีวินัยที่จะกระทำสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณแทนที่จะเป็นเพียงการพูดอะไรบางอย่างที่สำคัญกับคุณ มันเกี่ยวกับการเริ่มทำเมื่อคุณอยากหยุด ไม่ใช่เพราะคุณต้องการที่จะทำงานมากขึ้น แต่เพราะเป้าหมายของคุณคือสิ่งที่สำคัญมากพอที่จะให้คุณไม่ทำงานเฉพาะตอนที่สะดวก การเป็นมืออาชีพเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำให้การจัดลำดับความสำคัญของคุณเป็นจริง

มีหลายท่าออกกำลังกายที่ผมไม่อยากทำ แต่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ออกกำลังกาย มีบทความจำนวนมากที่ผมไม่ได้รู้สึกอยากจะเขียน แต่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ออกเผยแพร่ตามตาราง มีหลายวันที่ผมอยากจะพักผ่อน แต่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่เลือกทำงานในสิ่งที่มีความสำคัญกับผม

การเป็นมืออาชีพไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นคนบ้างาน  มันหมายความว่าคุณเก่งในด้านการใช้เวลาทำสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอยากทำ แทนที่จะต้องเป็นเหยื่อของโชคชะตาที่ชีวิตจะกระทำกับคุณ

วิธีการเป็นมืออาชีพ
การทำงานของคุณอย่างมืออาชีพไม่ได้เป็นเรื่องง่าย แต่ก็ไม่ซับซ้อนหรือยากอย่างที่คุณอาจคิด มีสามขั้นตอนดังนี้
1 ตัดสินใจว่าคุณต้องการจะเก่งในเรื่องใด
วัตถุประสงค์คือทุกอย่าง ถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร ที่เหลือมันก็เป็นเรื่องง่าย เรื่องนี้เหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ประสบการณ์ของผมแม้แต่คนที่มีฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์และมีพรสวรรค์ แทบจะไม่ทราบว่าพวกเขากำลังทำอะไรและทำไม

2 ตั้งระยะเวลาในการกระทำของคุณ
เมื่อคุณรู้ในสิ่งที่คุณต้องการ ก็กำหนดระยะเวลาในการทำให้เป็นจริง
หมายเหตุ: อย่าทำผิดพลาดเหมือนที่ผมได้ทำมาซึ่งเป็นกำหนดการบนพื้นฐานของผลลัพธ์  อย่าตั้งแผนที่จะลดน้ำหนักเท่าใดใน1สัปดาห์ หรือเงินเท่าไรที่คุณจะทำได้ การตั้ง "ลดน้ำหนัก 5 กก." ไม่ใช่การกระทำที่คุณสามารถทำได้  แต่ การตั้ง "ทำ squats 3 ชุด" เป็นการกระทำที่คุณสามารถทำได้
คุณต้องกำหนดตารางเวลาให้ขึ้นอยู่กับการกระทำที่คุณสามารถทำได้ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

3 ทำตามตารางเวลาของคุณเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
หยุดคิดว่ามันยากที่จะทำตามตารางเวลาเป็นเดือนหรือปี เพียงทำตามมันสำหรับสัปดาห์นี้ สำหรับ 7 วันข้างหน้าไม่ให้มีอะไรรบกวนได้ การตั้งตารางเวลาไม่ได้ทำให้คุณเป็นมืออาชีพ แต่มันคือการทำตามอย่างเคร่งครัด อย่าเป็นนักเขียน แต่จงเขียน อย่าเป็นนักยกน้ำหนัก แต่จงยกน้ำหนัก  ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ทำในสิ่งที่คุณต้องการจะทำโดยไม่ให้อย่างอื่นในชีวิตมาขัดขวาง แล้วสัปดาห์ถัดไป ค่อยเริ่มต้นอีกครั้ง

แล้วในโลกแห่งความจริงเป็นอย่างไร?
มี 2 ตัวอย่างที่แสดงถึงวิธีการของผมในการพยายามเป็นมืออาชีพในขณะนี้ สามารถเอาไปลองได้ ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีการทำงานให้ดีขึ้นอย่างมืออาชีพ

วิดพื้น - ผมตั้งใจจะวิดพื้นให้ได้ 100 ครั้งติดต่อกัน ผมเริ่มต้นเมื่อ 5 เดือนก่อน และตอนนี้ผมทำได้ 36 ครั้ง ติดต่อกัน ตารางเวลาของผมคือการวิดพื้นทุกวันจันทร์พุธและศุกร์ นอกจากช่วงสั้น ๆ ในขณะที่ผมกำลังเดินทางไปรัสเซียและตุรกี ผมไม่ได้พลาดการออกกำลังกายแม้แต่วันเดียวในระยะเวลา5เดือน

การเขียน - ที่ผมกล่าวถึงในตอนต้นของบทความนี้ ผมได้ต่อสู้กับการทำตามตารางเวลาของการเขียนอย่างสม่ำเสมอในอดีตที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ผมมีตารางที่ได้ผล และผมวางแผนที่จะทำตามมัน

ตารางเวลาง่ายๆ: เผยแพร่บทความใหม่ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดีในเว็บไซต์นี้ ผมได้ปฏิบัติตามตารางเวลา 8 สัปดาห์จนถึงตอนนี้ มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของการมุ่งสู่การเป็นมืออาชีพ

คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง
ทุกคนมีการเดินทางเป็นของตัวเอง แต่คุณไม่ได้ที่จะเผชิญกับความเจ็บปวดของการเป็นมืออาชีพทั้งหมดด้วยตัวเอง
แสดงความคิดเห็นด้านล่างและบอกผม
คุณต้องการที่จะเป็นมืออาชีพในด้านไหนในชีวิต? อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ?

อ่าน version ภาษาอังกฤษได้ที่  http://jamesclear.com/professionals-and-amateurs